วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

9 สาเหตุ ที่ทำให้คุณลดน้ำหนักไม่ได้สักที

9 สาเหตุ ที่ทำให้คุณ "ลดน้ำหนักไม่ได้" สักที


1. ขาดวินัย และไม่ซื่อสัตย์กับตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าอยากลดแต่ทำไงได้ ก็หิวอ่ะ ขอกินอีกหน่อย
เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยลด
2. ไม่รู้จักรอคอย ใจร้อน ..โอ้ย..นี่ฉันอดข้าวเย็นมาตั้ง 2วันแล้วน่ะ..ทำไมน้ำหนักไม่ลงสักที
3. แรงบันดาลใจ ไม่มากพอ เพื่อนเยอะสังสรรค์บ่อยเรื่องอะไรจะอด กินโต๊ะแชร์ทั้งที แหม...
4. ไปผิดทาง ก็พออ้วน เดี๋ยวก็กินยาลด สักชุด2ชุดเดี๋ยวก็เข้าที่
5. หลอกตัวเอง..อ้วนอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว แฟนก็รักโหงวเฮ้งดี มีอันจะกินดีออก..
6.มีความจำเป็นต้องใช้ ยาบางตัวรักษาอาการเจ็บป่วยของร่างกาย เช่นโรคที่ต้องใช้ สเตรียรอยด์
(กลุ่มนี้ต้องทำใจให้หายป่วย หยุดใช้ยาแล้วค่อยลดค่ะ)
7. โลภอาหาร ไม่รู้จักความพอเพียง เสียดายกลัวเหลือ เสียของ อันนั้นก็น่ากิน อันนี้ก็น่ากิน
8. ขี้เกียจ กินอิ่มแล้วง่วง หนังท้องตึง หนังตาหย่อน แถมงานก็หนัก ไม่มีเวลาออกกำลังกายจร้า..
9. นอนดึก ติดซีรีย์ เล่นเกมกำลังตะลุยด่าน นอนน้อยพักผ่อนไม่เพียงพอ โกรทฮอร์โมน
(ตัวช่วยเรื่องการ เผาผลาญ) ทำงานไม่ดีพอ จึงทำให้อ้วนง่าย

ลด ละ เลิก สาเหตุ 9 ข้อนี้ได้ รับรองว่า หุ่นสวย เป๊ะ เป็นสิ่งที่หวังได้คะ

ด้วยความปรารถนาดีจาก


วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

โรคแพ้อากาศ โรคฮิตของคนเมือง

โรคแพ้อากาศ 
by นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์


โรคที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่ง ที่คนมักจะพูดกันว่า “ใครๆเขาก็เป็นกัน”  นั่นคือ
โรคแพ้อากาศ ผมเองก็เคยป่วยเป็นโรคนี้สมัยเป็นนักเรียนแพทย์ปีที่ 2-3
ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  เป็นรุนแรงขนาดจามและน้ำมูกไหลตลอดทั้งวัน
ต้องใช้กระดาษทิชชู่ เช็ดน้ำมูกเป็นม้วนๆต่อวัน  ทำให้ขาดสมาธิในการเรียน พอหนักเข้าก็โดดเรียนไปเลย
แต่โชคดีที่อยู่ในโรงเรียนแพทย์  จึงมีนักศึกษาแพทย์รุ่นพี่พาไปพบอาจารย์ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
(หู คอ จมูก) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องโรคแพ้อากาศโดยตรง ทำผลงานวิจัยและเขียนตำราจนเป็น
ศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทยในขณะนั้น ผมได้รับการรักษาด้วยการฉีดวัคซีน
กระตุ้นภูมิต้านทานต่อสิ่งที่แพ้  ภายหลังจากทราบสารก่อภูมิแพ้ด้วยการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง
ผมถูกฉีดวัคซีนอยู่นานหลายปี จากฉีดทุกสัปดาห์ในช่วงแรกแล้วค่อยๆห่างขึ้นจนภายหลังฉีดห่างเป็น
1-2 เดือนต่อครั้ง อาการต่างๆที่เคยเป็นก็ค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับจนกระทั่งในที่สุดก็หายเป็นปกติ
ด้วยความผูกพันที่มีต่อภาควิชานี้ เมื่อจบออกไปเป็นแพทย์ในอีกหลายปีต่อมา หลังทำงานอยู่ใน
โรงพยาบาลชุมชน 3 ปี ก็กลับเข้ามาเรียนต่อที่ภาควิชานี้อีก 3 ปี จนได้รับวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขา
หู คอ จมูก หลังจากจบเป็นแพทย์ผู้เชียวชาญได้เข้าไปทำงานที่โรงพยาบาลบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีพร้อมๆ
กับเปิดคลินิกรักษาโรค หู คอ จมูกและภูมิแพ้ ในการตรวจรักษาผู้ป่วยทั้งที่โรงพยาบาลและที่คลินิก
โรคที่พบบ่อยที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยก็คือ “โรคแพ้อากาศ” บางครั้งซักประวัติผู้ป่วย 1-2 ประโยค
ก็แทบจะวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องตรวจแล้วว่าเป็นโรคแพ้อากาศ พอตรวจจมูกเพิ่มเติม ก็ยืนยันชัดเจนว่าเป็น
โรคนี้ ผมได้รักษาผู้ป่วยโรคแพ้อากาศไปเป็นจำนวนมากตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่านมา ให้การรักษาด้วย
การรับประทานยา ใช้ยาพ่นจมูก ตลอดจนฉีดวัคซีนกระตุ้น ทั้งที่โรงพยาบาลและคลินิกด้วยความที่เป็นโรค
ที่พบได้บ่อย  ฉบับนี้จึงอยากให้ทุกๆท่านมีความรู้เกี่ยวกับ “โรคแพ้อากาศ” เพิ่มมากขึ้น
“โรคแพ้อากาศ” ชื่อที่ถูกต้องของโรคนี้คือ “โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้” เป็นโรคที่พบได้ทุกเพศ ทุกวัย
และทุกเชื้อชาติทั่วโลก อุบัติการณ์ของโรคนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันพบว่าโดยเฉลี่ยผู้ใหญ่เป็น
ร้อยละ 20 และเด็กเป็นร้อยละประมาณ 40 ผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการเกิดขึ้นขณะที่อากาศเปลี่ยนแปลง
หรือมีอาการชัดเจนเฉพาะบางฤดู จึงทำให้ได้ชื่อว่าโรคแพ้อากาศ
อาการที่พบบ่อย ได้แก่
  1. คันจมูก บางรายอาจคันตา คันเพดาน คันในคอ
  2. จามติดๆกันหลายๆครั้ง
  3. มีน้ำมูกใสๆไหลมาก
  4. คัดแน่นจมูก มักเป็นสลับข้างกัน
  5. อาการอื่นๆ เช่น หูอื้อ ปวดมึนศีรษะ จมูกไม่ได้กลิ่นน้ำมูกไหลลงคอ หรือมีเสมหะติดในคอหรือมีอาการอ่อนเพลีย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ

   1. เหตุนำ  เกิดจากความผิดปกติของระบบสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งเชื่อว่าเป็นกรรมพันธุ์ 
ดังนั้นผู้ที่เกิดมาในครอบครัวที่มีโรคภูมิแพ้อยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็นโรคหอบหืด โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ผื่นผิวหนังหรือลมพิษมีโอกาสที่จะเป็นโรคในกลุ่มนี้ได้มากกว่าคนอื่นๆ
   2. เหตุโดยตรง คือ คือสารก่อภูมิแพ้ที่มีอยู่รอบๆ ตัวเรา และ มีอยู่ในอากาศที่เราหายใจเข้าไป
สารก่อภูมิแพ้ที่ได้พบบ่อย คือฝุ่นในบ้าน ตัวไรในฝุ่นบ้าน นุ่น ขนและรังแคของสัตว์เลี้ยง เชื้อราในอากาศ ละอองเกสรของหญ้า และวัชพืชต่างๆสิ่งขับถ่ายของแมลงที่อยู่ในบ้าน เช่น แมลงสาบ ยุง 
และมด ผู้ป่วยบางรายอาจแพ้สารบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพ เช่น ปุ๋ย อาหารสัตว์
   3. เหตุเสริม ได้แก่ สาเหตุอืนๆ ที่ไม่ไช่สารก่อภูมิแพ้ คือ
        - สารที่ระคายเคืองต่อเยื่อบุจมูกโดยตรง เช่น ควันไฟ ควันท่อไอเสียรถ ควันบุหรี่ กลิ่นฉุนๆ 
กลิ่นน้ำหอม สเปรย์ และ ฝุ่นละอองต่างๆ
           - การเปลี่ยนแปลงของอากาศ เช่น อากาศร้อนจัด เย็นจัด ฝนตก พัดลมเป่า แอร์เป่า เป็นต้น
           - ร่างกายอ่อนเพลีย  เนื่องจากอดนอน ทำงานหนัก ขาดการออกกำลังกาย ฯลฯ
           - อารมณ์ตึงเครียด วิตกกังวล ไม่สบายใจ
           - โรคติดเชื้อ เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ เจ็บคอ ฟันผุ หรือไข้หวัด จะทำให้สุขภาพอ่อนแอ
เป็นเหตุให้ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มีอาการมากขึ้นได้

แนวทางการรักษา
  1. ไปพบแพทย์  เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้จริงหรือไม่
บางรายต้องทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง หลังทดสอบประมาณ 20 นาทีจะทราบว่าแพ้อะไรบ้าง
และแพ้มากน้อยเพียงใด เมื่อวินิจฉัยแน่ชัดแล้ว แพทย์มักจะให้การรักษาด้วยการให้ผู้ป่วย
รับประทานยาใช้ยาพ่นจมูกหรือพิจารณาฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิต้านทานในบางรายที่มีอาการมาก
  1. พยายามกำจัดและหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่แพ้ ผู้ป่วยที่สามารถกำจัดหรือลดปริมาณ                 ของสารก่อภูมิแพ้ที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวให้เหลือน้อยที่สุดอาการอาจจะดีขึ้น              โดยไม่ต้องรักษาเลยก็ได้ ดังนั้นจึงต้องเน้นให้ทำก่อนเป็นอันดับแรก
  2. พยายามหลีกเลี่ยงสารระคายเคืองต่างๆ ที่ทำให้เกิดอาการ เนื่องจากเยื่อบุจมูก               ของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ จะมีความว่องไวต่อสารระคายเคืองเหล่านี้มากกว่าคนปกติทั่วไป
  3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ทำให้โรคภูมิแพ้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว             
  4. พักผ่อนให้เพียงพอและไม่เครียด 
โรคแทรกซ้อน
โรคแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย คือ โรคไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ คออักเสบ  
ริดสีดวงจมูกและโรคหอบหืด

ดังนั้นเมื่อทราบว่าป่วยเป็นโรคภูมิแพ้จึงควรรีบรักษาเพื่อควบคุมไม่ให้มีอาการเกิดขึ้น 
จึงจะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนเหล่านี้ตามมาได้

มีปัญหาสุขภาพ ปรึกษาเรา"ฟรี"
โทร. 0982846224
Successmore หนองจอก

คนท้องผูก ถ่ายเป็นเลือด ต้องอ่าน

คุณสมบัติ Phytovy (ไฟโตวี่) ดีท็อกซ์

     Phytovy (ไฟโตวี่) ดีท็อกซ์ ช่วยเร่งการเผาผลาญและช่วยในเรื่องของการล้างสารพิษในลำไส้ได้หมดจด ยังมีส่วยช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด เพื่อช่วยลดคอลเลสเตอรอล น้ำตาลในเส้นเลือด เพิ่มพื้นที่ดูดซึมสารอาหารให้ร่างกาย และต้านอนุมูลอิสระ Phytovy (ไฟโตวี่) ดีท็อกซ์ ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ และป้องกันมะเร็ง รวมถึงบรรเทาอาการปัสสาวะอักเสบ Phytovy (ไฟโตวี่) อาหารเสริมดีท็อกซ์ลำไส้ เพื่อล้างสารพิษของแท้ ที่สามารถดื่มได้ง่ายๆ  อร่อยและเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูก ขับถ่ายได้น้อย รู้สึกแน่นท้อง ระบบการย่อยไม่ดี และขับถ่ายไม่ออก
 Phytovy (ไฟโตวี่) ดีท็อกซ์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูกบ่อย
     ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Phytovy (ไฟโตวี่) ดีท็อกซ์ ลำไส้ ช่วยล้างสารพิษ ขับของเสีย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูกบ่อยและขับถ่ายได้น้อยหรือขับถ่ายยาก ซึ่งจะช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และยังช่วยระเบิดไขมันชนิดไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้การล้างลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก เมื่อใช้ Phytovy (ไฟโตวี่) ดีท็อกซ์ เป็นประจำผลลัพธ์ที่ตามมาคือการที่มีสุขภาพที่ดี ผิวพรรณไม่หมองคล้ำและลำไส้สะอาด เพราะระบบต่างๆในร่างกายถูกดีท๊อกซ์ และล้างจนสะอาด ทำให้ระบบต่างๆมีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
 ประโยชน์ที่สำคัญPhytovy (ไฟโตวี่) ดีท็อกซ์
     Phytovy (ไฟโตวี่) ดีท็อกซ์ ช่วยระบบย่อยอาหารให้เป็นปกติ และยังช่วยประสิทธิภาพการดูดซึมในลำไส้ ช่วยลดปริมาณไขมันที่ไม่มีประโยชน์ของร่างกาย ซึ่งจะส่งผลทำให้ความเสี่ยงโรคภัยต่างๆ มีโอกาสลดลงลดได้ ซึ่ง Phytovy (ไฟโตวี่) ดีท็อกซ์ จะเป็นการช่วยลดน้ำหนักโดยวิธีธรรมชาติ เพราะช่วยเพิ่มพื้นที่ดูดซึมสารอาหารให้ร่างกาย ช่วยลดอาการท้องผูก ซึ่งจะทำให้เกิดการเป็นริดสีดวงน้อยลง และยังช่วยเร่งการเผาผลาญ และควบคุมระดับไขมันในเลือด ที่สำคัญยังมีส่วนช่วยลดปริมาณสารพิษในลำไส้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้หลายคนสุขภาพดีมากขึ้นกว่าเดิม
ฟื้นฟู ดูแล ทำความสะอาดร่างกาย..  จากภายใน  : ล้างสารพิษในลำไส้ได้หมดจด
  : เพิ่มพื้นที่ดูดซึมสารอาหารให้ร่างกาย
  : ควบคุมระดับไขมันในเลือด
  : ลดคอลเลสเตอรอล และน้ำตาลในเส้นเลือด
  : ป้องกันโรคหัวใจ  เร่งการเผาผลาญ
  : ต้านอนุมูลอิสระ  ป้องกันมะเร็ง
  : บรรเทาอาการปัสสาวะอักเสบ
  : ช่วยลดน้ำหนัก
 ขนาดบรรจุ 15 ซอง อย. เลขที่ 24-1-20555-1-0061   (มีฮาลาน)
 วิธีรับประทาน
 1 ซองผสมน้ำ 1 แก้ว (น้ำอุณหภูมิธรรมดา หรือน้ำเย็น)
  คนให้เข้ากันแล้วดื่มก่อนนอน วันละ 1 ซอง

 - หากเพื่อทำความสะอาดลำใส้ ก็ดื่มก่อนนอนตามปกติ
 - หากเพื่อลดน้ำหนัก
   ให้ทานก่อนอาหารมื้อเที่ยง ครึ่งซอง/น้ำครึ่งแก้ว
   และทานก่อนอาหารมื้อเย็น ครึ่งซอง/น้ำครึ่งแก้ว
 คำเตือน
  เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน


สนใจสินค้า ติดต่อ 0982846224 หรือ 0968578124
Line ID : neung_success
Facebook : /neungsuccessmore